วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563

คนขี้แพ้




หลายสิ่งในชีวิต ไม่ได้เหมาะกับเราหรอก
เรามีหัวใจที่เราต้องดูแล
หากแต่บางสิ่งก็ต้องอดทนเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ

สิ่งที่เราต้องกล้ำกลืนฝืนทน
คงเป็นสัญญาณว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับเรา
เมื่อมันทำให้เราเจ็บช้ำ
คงไม่ผิดที่เราจะถอดใจ

แล้วถ้ามันไม่มีจุดหมายปลายทางล่ะ
เราจะอดทนกับมันไปทำไมกัน
การที่เรารู้ว่ามันไม่ใช่
นั่นแสดงว่าเราได้สัมผัสกับมันมาแล้ว
และทราบด้วยว่าทำไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา



##ความรักก็เช่นกัน##
คนบางคนเช่นฉัน ก็เป็นไอ้ขี้แพ้ในความสัมพันธ์
นิดๆ หน่อยๆ ก็ถอดใจ
ฉันมักเชื่อหัวใจดัวเอง ว่าสิ่งที่ดีกับเรา ก็คงไม่ทำให้เราเจ็บปวด
หัวใจของฉันเจ็บมาหลายครั้ง
ถึงขั้นคิดว่าจะไม่รักใครอีก

หลายๆ คนเข้ามาเพื่อให้หัวใจชุ่มชื่นเพียงชั่วคราว
และเป็นเพราะฉันเองที่กลัว กลัวว่าถ้ารักไปแล้วจะเจ็บซ้ำอีก
ฉันไม่อยากให้ตัวเองต้องไปอยู่จุดที่ทนดูไม่ได้อีกแล้ว
ฉันไม่กล้าเอาหัวใจของฉันไปเสี่ยงกับความรักอีก
แต่สุดท้าย ก็มานั่นพร่ำเพ้อว่าทำไมไม่มีใครรักฉันจริง

ทุกครั้งที่ฉันรักใคร
ฉันจะทุ่มเทใจไปให้เต็มที่
แต่เมื่อเขาไม่ได้ดูแลใจของฉันเท่าที่ฉันต้องการ
ฉันจะเริ่มถอดใจ
ความรักของฉันที่มีให้เขาจะเริ่มลดลง
สุดท้ายก็จากกันในที่สุด


ที่แท้ ความผิดหวังที่ผ่านๆมา เป็นฉันเองที่ขี้แพ้ ไม่กล้าเสี่ยงเอง....




https://drive.google.com/uc?export=view&id=1dsisnluv33iX9QO7x__sXnTyzvIag6Jt




แต่ที่จริง ระหว่างรักตัวเอง กับขี้แพ้ มีเส้นบางๆ กั้นอยู่นะ

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ปีศาจที่ซ่อนอยู่


https://drive.google.com/uc?export=view&id=1vBPi0Y5_2hikToxTDRG-5WcAciFXD73S

เราทุกคนมีด้านสว่างที่แสดงออกให้โลกภายนอกได้รับรู้ และแน่นอน ย่อมมีด้านมืดที่กดเก็บมันเอาไว้ในก้นบึ้งของจิตใจ

ยามใดที่ความมืดมิดนั้นเริ่มแผลงฤทธิ์
มันมักจะพาเรื่องแย่ๆอีกมากมายมาเป็นเพื่อนกับมัน

ลองย้อนนึกดู
เวลาที่เรารู้สึกเหนื่อย ท้อ เศร้าหมอง มืดมน
เมื่อถึงจุดหนึ่ง เรามักจะเจอกับประสบการณ์อะไรแปลกๆ หนักๆ แย่ๆ หลายๆ อย่างมาพร้อมๆ กัน ที่ชวนให้คิดว่า เจ้ากรรมนายเวรกำลังตามเราแน่ๆ

แต่ลืมดูที่ใจของเราเองว่า ที่จริงแล้ว เรานี่แหละที่เป็นคนใช้จิตที่มีความคิดด้านลบดึงเรื่องร้ายๆต่างๆ เข้ามาหาตัวเอง

“เพราะใจมันไม่ดี ดวงเลยไม่ดี
ที่ดวงดี เพราะใจมันดี”
ใครสักคนได้กล่าวไว้

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่นึกได้ระหว่างทำแผลที่เดินสะดุดจนหกล้มเมื่อวันก่อน
ย้อนไปก่อนจะล้ม
6 วัน ทะเลาะกับน้องครั้งใหญ่ และเสียใจมาก
5 วัน ขับรถกลับบ้านตอนกลางคืน รถปีนแบริเออร์แรงมากเสียงดังมาก แต่ไม่เป็นไรยังวิ่งต่อได้
3 วัน พบว่ายางแบนและแก้มยางรถยนต์บวม เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากๆ
2 วัน เสียเงิน เปลี่ยนยางรถ ส่วนจิตใจเริ่มดีขึ้นแล้วแต่ร่างกายไม่เอาด้วย
1 วันก่อนหน้าจะล้มก็เครียดจนอาเจียนไม่หยุด แต่ก็ต้องหอบสังขารไปทำงาน ตอนค่ำสะดุดท่อแล้วครั้งนึงแต่ไม่ล้ม
ในวันนั้นวันที่ล้ม เข้าเวร มีงานเข้ามาเยอะมากจนสับสนว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง
ตกเย็นจะรีบไปงานศพ ก็ล้มจับกบตอนจะข้ามถนนไปขึ้นรถนั่นเอง เดชะบุญรถที่กำลังมาเค้าชะลอให้

นี่คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมว่า เมื่อใจเราไม่ดี ดวงเราก็เลยไม่ดี เหมือนปีศาจที่แอบอยู่ บางคนก็บอกว่าเจ้ากรรมนายเวรเค้ามาตาม ซึ่งจริงๆแล้วเรานี่แหละ เป็นคนเรียกเรื่องแย่ๆมาด้วยพลังของจิต ยิ่งเข้มข้นมาก ก็ยิ่งประดังเข้ามามาก

ความคิดของเรามีแรงดึงดูด
ถ้าเราคิดบวกได้ เราก็คงจะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา แต่ชีวิตเราต้องเจอทั้งเรื่องแย่และเรื่องดีไง ถึงจะเรียกว่าชีวิต

ไม่หวังว่าจะไม่เจอทุกข์
แต่หวังว่าจะมีสติ และเข้มแข็งนานพอที่จะเห็นความทุกข์หายไป

เป็นกำลังใจให้ตัวเอง. ✌🏼




..ในรูปคือแผลที่ล้มที่กล่าวถึงไป วันนี้วันที่ 3 แล้ว เหมือนปีศาจตาเดียวกำลังสะแหยะยิ้มไหม
.. แต่หลังจากล้มก็ทำให้คิดได้หลายอย่าง กรรมก็ส่วนหนึ่ง พลังของจิตก็ส่วนหนึ่ง อาจแสดงผลรวมกันหรือแยกกันก็ได้ แต่มักเห็นชัดเวลารวมกันมากกว่า ..


วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ทำตัวยุ่งๆ

ทำตัวยุ่งๆ วันนี้ไม่ใช่ทำตัวยุ่งเรื่องชาวบ้านนะ 55
แต่หมายถึงว่า เราควรหาอะไรทำเยอะๆ
ก่อนที่จิตใจจะห่อเหี่ยว ไม่อยากทำอะไรแม้แต่หายใจ

สังเกตมั้ยว่าเวลาเราทำอะไรเยอะๆ
มันมีพลังทำนั่นทำนี่เยอะแยะไปหมด
อยากทำไปทุกอย่าง จนบางทีก็ยอมอดนอนเพื่อทำสิ่งเหล่านั้น
แต่เมื่อใดก็ตามที่หยุดทำอะไร แล้วมีอะไรให้ทำน้อยลง
มันทำให้เราเหมือนหมดพลังชีวิต
แค่มีชีวิตจากบุญเก่าที่คอยเป็นกำลังให้เราหายใจเข้าออกในแต่ละวัน
ไม่อยากทำอะไรแม้กระทั่งเก็บกวาดบ้านเรือน
ให้อาหารแมว
อยากแต่จะนอน  นอนเหมือนตายจนบางทีเจ้าแมวมาร้องเรียก มางับๆที่มือเพื่อปลุก และอาจสงสัยว่าทาสตายรึยัง

เราต้องเตือนตัวเองให้ตื่นตัวมากกว่านี้
จะได้เป็นพลังในการสู้ต่อไป
และจะได้มีแพชชั่นทำอะไรเยอะๆ
ตอนนี้อยากแต่นอนกับนอน กินยังไม่อยากกินเลย ฮ่าๆ

ต้องทำตัวยุ่งๆ หาอะไรทำเยอะๆ
เดี๋ยวความอยากทำงานก็คงมาเอง

“ไขลานตัวเองหน่อย”

เห็นต่าง

ทุกคนมีสมองเป็นของตัวเอง มีความคิด มีอุปนิสัยของตัวเอง
ต่างคนเลือกจะแสดงออกต่างกัน อาจด้วยเหตุผลของบริบทที่ต้องรักษา และเหตุผลของตน
คงจะไม่มีใครมาคิดแทนใครได้

ในวันที่มีการแสดงออกของประชาชนแบบนี้
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

บอกว่ารับฟังความเห็นที่แตกต่าง
แต่พอมีคนที่เห็นต่างมาพูด ก็กลับด่าเขา
งงมั้ย

แต่เราก็ไม่เห็นต้องด่าใครที่เค้าคิดหรือแสดงออกไม่เหมือนเราเลยหนิ
ไม่เห็นจำเป็นว่าเราต้องออกมาด่าทุกคนที่เกลียดเลยนะ บางที สิ่งเหล่านี้เก็บไว้ในใจบ้างก็ได้ จะได้ไม่เป็น Toxic กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในครอบครัว ถ้าพูดความเห็นกัน แล้วมีฝ่ายที่ไม่ยอมรับฟังเหตุผลของอีกฝ่ายตัดสินกันไปมา อาจถึงขั้นแตกหักก็ได้

การเลือกที่จะแสดงออกหรือไม่เป็นเรื่องของบริบท

การแสดงออกเป็นสิทธิเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญ กระทำได้ตราบเท่าที่ไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น

ไม่ได้แสดงความคิดเห็น ไม่ใช่ไม่มีความคิดเห็น
ไม่ได้พูดออกไป ไม่ใช่ว่าไม่คิด
ไม่ได้ไปม็อบ ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป
ไม่ได้บอกว่าเกลียด ก็ไม่ใช่ว่าไม่เกลียด
และอย่าตัดสินคนอื่นถ้าเห็นแค่เสี้ยวเล็กๆ เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเค้า

ขอบอกอีกอย่าง ในโลกนี้ไม่มีใครดี100% และเช่นกัน ไม่มีใครเลว 100%

หลายๆ คน มันมีภาระ มันมีอะไรที่สำคัญกว่าความสะใจชั่วครั้ง แต่ชิงชังชั่วโคตร อีกเยอะ

บอกแล้ว คิดแทนกันไม่ได้หรอก
ยกเว้นเพื่อนตดเหม็นแล้วบอกว่าแบบนี้เมิงไปห้องน้ำเถอะ เออนี่คิดแทนได้ ไม่ผิด 555

https://drive.google.com/uc?export=view&id=1enfM7E3PEWyyLNDUkRxXLbYPcebocULh

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563

อำนาจเงิน

 คงมีหลายครั้งที่คนเรารู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ หรือเกิดความทุกข์เพราะ
เงิน

เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ในการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้
เราทุกคนต้องการมัน
เพราะบริบทของสังคมและการใช้ชีวิตไม่ได้เหมือนแต่ก่อน 
เราส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสังคมเมืองทำงานนอกบ้าน
ไม่ได้เพาะปลูกหรือไปหาปลาเหมือนสมัยตาอินกะตานาแล้ว
และแม้คนในชนบทเอง ก็ไม่ได้ปลูกทุกอย่างที่กิน
เรายังต้องมีเงินเพื่อซื้อสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกอยู่ดี

"เงิน" จึงเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน
แต่ทว่าการทำงานมากเกินไปก็ส่งผลเสียหลายต่อหลายอย่าง 
ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพกาย สุขภาพจิตหรือแม้กระทั่งสุขภาพของความสัมพันธ์

คนบางคนทุ่มเททำงานหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน
แต่มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนที่เขาเคยบอกให้คอยไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว 
เพราะมัวแต่หาเงิน แต่ไม่ได้ดูแลรักษาหัวใจของคนที่อยู่ข้างหลัง
ดึกเที่ยงค่ำเช้า ก็ออกไปหาแต่เงิน
ไม่มีเวลาแม้เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์
เพื่อไปท่องเที่ยว พูดคุย ทำความรู้จัก สร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน

เราทั้งหลายควรจัดความสมดุลของชีวิตให้ได้
ไม่ใช่เอาแต่ทำงานทำเงิน จนหลงลืมคนที่อยู่ข้างหลังไป
ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตลำพัง เหมือนไม่มีคุณ
เพราะเขาก็ต้องการคุณเหมือนที่คุณต้องการเงิน....

อย่าปล่อยให้ใครต้องเหงา เพราะคุณเอาแต่หาเงินเลยนะ



##สำหรับฉันในวันนี้##

เมื่อฉันอยากเจอเขา แต่เขาอยากเจอเงิน
แค่นี้ฉันก็พูดไม่ออกแล้ว

ยอมอึดอัดใจเพื่อรักษากันไว้ อาจจะดีกว่ามาทะเลาะกัน(หรือเปล่านะ)
เกิดคำถามขึ้นมาอีกแล้ว
ในขณะทึ่ฉันกำลังสับสน ฉันก็ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้นะ อย่าร้องไห้อีกเลยนะ ฉันลูบหัวตัวเอง ปลอบใจตัวเอง ว่าไม่ต้องอิจฉาเงินหรอกที่เขาอยากไปหามากกว่า

หากเธอผ่านมาเห็น ก็อยากให้รู้ว่าฉันอยู่ได้
หมายถึง ไม่มีเธอหน่ะ ฉันอยู่ได้