ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
หากแต่ฟ้าคงลิขิตมาให้ต้องแกร่งกว่าผู้หญิงธรรมดา
ฉันเกิดในครอบครัวธรรมดาในจังหวัดที่ไม่ได้มีความเจริญมากมาย
และเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
ญาติพี่น้อง ธรรมชาติรอบๆ กาย
ภาพความทรงจำในวัยเด็กของฉันค่อนข้างจะชัดเจน
เพราะแม่ชอบเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง ทั้งที่ฉันจำได้เองและที่แม่จำให้
ฉันโตมาในยุคที่มีรถยนต์ มีกล้องถ่ายรูป มีอัลบั้มภาพ
และเริ่มมีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวข้าราชการ
เป็นข้าราชการทั้งพ่อและแม่
ฐานะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ประหยัดจนมีให้พอใช้
ตั้งแต่จำความได้
ฉันก็โตมากับบ้านพักที่เป็นสวัสดิการของพ่อมาตลอด
มีแค่ช่วงสั้นๆ ที่จะต้องอยู่บ้านเช่า
ในยามที่พ่อต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัด
ในวัยเด็ก ก่อนนอน แม่ของฉันจะให้ฉันเล่าเหตุการณ์ที่โรงเรียนให้ฟัง
และแม่ก็จะอ่านหนังสือให้ฉันฟังก่อนนอนทุกคืน
สิ่งนี้ทำให้ฉันเป็นคนที่สนใจความเปลี่ยนแปลงรอบตัวอยู่เสมอ
เนื่องด้วยภาระหน้าที่การงานของพ่อ
ครอบครัวของฉันต้องย้ายบ้านอยู่บ่อยๆ
แต่ครั้งที่ฉันจำได้และรู้สึกได้แม่นยำ
เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกในชีวิตฉัน
ครั้งนั้น พ่อของฉันต้องย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่สูงขึ้น ในอีกจังหวัดหนึ่ง
เราทุกคนต้องย้ายไปด้วยกันหมด
รวมทั้งตัวฉันเองที่กำลังเริ่มมีกลุ่มเพื่อนๆ
แต่ฉันต้องย้ายโรงเรียน เปลี่ยนวิถีชีวิตมากมายที่ฉันไม่คุ้นเคย
ทำให้ฉัน ค่อยๆ กลายเป็นเด็กเก็บกด ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคุย
แล้วก็ค่อยๆ สร้างกำแพงมากั้นให้ตัวเองมีโลกส่วนตัวในที่สุด
และสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดและไม่เคยอยากให้เกิดก็เกิดขึ้น
ฉันต้องเสียพ่อไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ฉันอายุเพียง 8 ปี
เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นและจบภายในเสี้ยววินาที!
มันรวดเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน......
แม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ฉันกับน้องต้องมาอยู่ในความดูแลของญาติฝ่ายแม่ที่จังหวัดบ้านเกิด
และย้ายกลับมาเรียนในจังหวัดเดิม
เราสามคนแม่ลูกที่เหลือกันอยู่ จึงต้องปรับตัวอย่างมาก
แต่เราก็ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ ต่างๆกันมาได้ แม้จะทุลักทุเล
เมื่อฉันโตขึ้น แม่มักให้ฉันตัดสินใจเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตด้วยตัวเอง
ครั้งแรกๆ ฉันก็มองว่ายาก แต่แม่ก็คอยเป็นที่ปรึกษาให้ฉันเสมอ
อีกทั้งการที่ฉันเป็นพี่คนโต จึงต้องเป็นผู้นำน้องๆ
ทำให้ฉันต้องเก็บซ่อนความอ่อนแอไว้ภายใน และแสดงตัวตนอีกแบบหนึ่งออกมา
แม้ตอนที่ฉันเรียนอยู่ ฉันพยายามไม่บ่นให้แม่ฟัง ว่าลำบากอย่างไร
เพราะแม่เองก็ต้องใช้กำลังกายกำลังใจ
และความช่วยเหลือจากญาติมิตรอย่างมากที่สุด
ให้ก้าวผ่านวิกฤติของชีวิตมา
แต่แม่ของฉัน สามารถเป็นพลังใจให้ฉันสู้ต่อได้ทุกครั้ง
ทุกวันนี้
ฉันเรียนจบ มีงานทำ มีเงินเดือน มีรถ มีบ้าน เป็นของตัวเอง
และหากพ่อกำลังเฝ้ามองดูเราจากที่ใดที่หนึ่งในจักรวาลแห่งนี้
ขอให้พ่อทราบว่า พ่อสบายใจได้ ตอนนี้พี่กินข้าวเยอะขึ้น ไม่ผอมอย่างแต่ก่อน
แล้วตอนนี้ พี่กับน้อง ไม่ทะเลาะกันแล้ว 5555
และที่สำคัญ แม่ ก็ทำหน้าที่แทนพ่อได้อย่างดีที่สุด
ภูมิใจที่สุดที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อและแม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น