วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ถอนหญ้า

คนเราทุกคน มีอุปสรรคเป็นส่วนประกอบหนึ่งของชีวิต
จะมากจะน้อย หรือจะทุกข์ทรมานยาวนานเพียงใด
ก็ขึ้นอยู่กับกรรมเก่า
แต่หากเรามีหนทางหลุดพ้น ด้วยการแก้ปัญหาของเรา
ก็จะสามารถย่นระยะเวลาของผลแห่งกรรมนั้นให้สั้นลง.....




วันนี้ได้รับบทความบทความหนึ่ง จากคนที่เป็นที่สร้างกำลังใจของเรา
อ่านแล้วเลยอยากเอามาแบ่งปัน
เผื่อว่าใครที่ผ่านมาเห็น  กำลังมีปัญหา ที่ยังหาทางออกไม่เจอ
ให้ลองนั่งนิ่งๆ ลงสักพัก ทำใจให้เบา
ไม่นาน หนทางสว่างก็จะปรากฎขึ้นเอง...........




    "ก๊อก ๆ ๆ".. 
เสียงเคาะประตูที่ดังผ่านแผ่นไม้มาพร้อม ๆ กับเสียงที่ดูเหมือนกับเป็นคำสั่งว่า 

     "ตื่นนอนได้แล้ว จะได้ช่วยกันทำงาน"

เด็กน้อยคนหนึ่งตื่นขึ้นมาท่าทางงัวเงียสลึมสลือ มือจับผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาพับและตอบรับเสียงปลุกนั้น

     "อื่ม...ตื่นแล้ว ได้ยินแล้วครับ"
     "นี่วันหยุดนะเนี่ย" เด็กน้อยบ่นกับตัวเอง
     "เดี๋ยวกินข้าวเสร็จไปถอนหญ้าที่ไร่นะ" พ่อสั่งขณะที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาให้ลูกชาย 

     เด็กน้อยพยักหน้าตอบ และลงมือทานอาหารมื้อแรกของวัน หลังจากทานอาหารเสร็จ เด็กน้อยเดินไปหยิบหมวกและเสื้อแขนยาวมาสวมเพื่อกันแดด แล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน กระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานโบราณสภาพเก่าโทรม บ่งบอกถึงอายุการใช้งานซึ่งมีพ่อเป็นผู้ขี่

     ในระหว่างทางเด็กน้อยคุยกับพ่อตลอด เขาป้อนคำถามที่อยากรู้ ซึ่งบางครั้งดูเหมือนกับว่าผู้เป็นพ่อจะพยายามสอดแทรกให้แง่คิดตลอด โดยที่เด็กน้อยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่นานนักก็ถึงไร่ที่เขามีภารกิจที่จะต้องทำ


     'ถอนหญ้า' ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งหญ้าเปรียบเสมือน ศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่

      "เดี๋ยวเจ้าถอนหญ้าแปลงนี้นะ" พ่อสั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่แปลงผัก เด็กน้อยรับคำและลงมือถอนหญ้าออกจากแปลงผักทีละต้น ทีละต้น จนกระทั่งศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่หายไปจากแปลงผักจนหมดสิ้น


     "ไปพักกินน้ำที่ใต้ต้นมะม่วงก่อนปะ" เด็กน้อยรับคำพ่อแล้วเดินไปพัก
     "กลับมาเร็ว ๆ นะ ยังมีอีกแปลงหนึ่ง" เสียงพ่อสั่งตามหลังเด็กน้อย

     หลังจากได้พักกินน้ำ พ่อได้ส่งจอบให้เด็กน้อยพร้อมกับพูดว่า

     "เอ้า เอาไปถากหญ้า" เด็กน้อยรับจอบและตรงไปยังแปลงผักเพื่อทำภารกิจต่อ

     ดูเหมือนกับว่าเด็กน้อยจะพึงพอใจกับการใช้จอบถากหญ้ามากกว่าการใช้มือถอน เหตุผลก็คือ มันทำให้เขาสามารถทำงานได้รวดเร็ว ซึ่งไม่นานนัก เขาก็จัดการกับศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่อย่างราบคาบ 

     หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้นลง พ่อลูกก็พากันกลับบ้าน ระหว่างทางเด็กน้อยถาม

     "ทำไมไม่ให้ผมใช้จอบตั้งแต่แรกล่ะครับ ทั้ง ๆ ที่ทำงานได้เร็วกว่า"

     พ่อไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม เก็บซ่อนคำตอบไว้เพียงผู้เดียว 

     ผ่านไป 1 สัปดาห์ พ่อได้พาเด็กน้อยกลับไปที่ไร่อีก สิ่งที่เด็กน้อยเห็นก็คือ แปลงที่ใช้มือถอน บัดนี้ไม่มีหญ้าให้เขาถอนเลยแม้แต่ต้นเดียว แต่... แปลงที่ใช้จอบถาก กลับมีต้นหญ้าปกคลุมเหมือนเดิม 

     "ทำไมมันเป็นอย่างนั้นล่ะครับ" เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย ทั้ง ๆ ที่เขาได้จัดการมันหมดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

     พ่อตอบ "แปลงที่เจ้าใช้มือถอนน่ะ เจ้าได้ถอนมันถึงรากถึงโคนส่วนแปลงที่เจ้าใช้จอบถากน่ะ เจ้าเพียงแต่ตัดเอาส่วนปลายของมันออกเท่านั้น มันยังคงมีส่วนที่ฝังลึกอยู่ในดินอีก 



     มันก็เหมือนกับปัญหาต่าง ๆ ที่เราพบเจอนั่นแหละ ถ้าเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโดยปล่อยสาเหตุของปัญหาไว้ ไม่นานนักปัญหานั้นก็จะกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าอีก แต่ถ้าเราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ มันอาจจะยากสักนิดแต่มันก็ทำให้ปัญหานั้นหมดไปได้"

     เด็กน้อยยิ้มรับด้วยความเข้าใจ

‘จงหันหน้าสู้กับปัญหา... อย่าท้อถอย’

Crd Thassanan Sri



ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสามารถค้นหาคำตอบ และผ่านพ้นอุปสรรคไป

ขอบคุณผู้ที่ส่งบทความนี้มาให้
เป็นกำลังใจที่วิเศษ  ขอบคุณค่ะ  :)




วันนี้หาเพลงที่เข้ากับความหมายของบทความมาให้ฟัง
MV อาจจะคนละทิศทางกับอารมณ์ของบทความนะ แต่ความหมายเดียวกัน
"รักให้พอดี-เบิร์ด ธงไชย"


........วันนี้แกะมีกำลังใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น